อวัยวะเพศชายมีกลิ่น เหม็น จุดเล็ก ๆ ที่ควรใส่ใจ
อวัยวะเพศชายมีกลิ่น นับว่าเป็นปัญหาที่หนักหน่วงไม่แพ้เรื่องขนาดเลยก็ว่าได้ เพราะส่งผลกระทบให้กับคู่รัก นอกจากนี้ยังรวมไปถึงกิจกรรมเข้าจังหวะระหว่างคู่รักอีกด้วย ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าการที่น้องชายของหนุ่ม ๆ มีกลิ่นเนี่ย มีสาเหตุมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ปลายอวัวยะเพศชายอักเสบ หรือขี้เปียก สิ่งเหล่านี้เนี่ยนับว่าเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการติดเชื้อเลยค่ะ ดังนั้นหนุ่ม ๆ จึงควรรักษาความสะอาดให้แก่ อวัยวะเพศชายมีกลิ่น หลังทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยนะคะ เพื่อจะได้ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และที่สำคัญช่วยลดโอกาสการสะสมของแบคทีเรียได้อย่างดีเลยแหละ
สาเหตุใดบ้างที่ส่งผลให้ อวัยวะเพศชายมีกลิ่น
อย่างที่ทราบกันข้างต้นแล้วว่า กลิ่นไม่พึงประสงค์ของน้องชายนั้นส่งผลเสียในเรื่องของอะไรบ้าง โดยสาเหตุหลัก ๆ ของเจ้ากลิ่นที่ไม่พึงประสงค์นี้มีด้วยกันหลายสาเหตุเลยค่ะ เดี๋ยวจะพาไปล้วงความลับกันว่า กลิ่นเหล่านั้นมีที่มาที่ไปยังไง ต้องบอกให้เข้าใจกันง่าย ๆ เลยก็คือ ขี้เปียก, การอักเสบของอวัยวะเพศชาย, โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์, ติดเชื้อรา และกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ค่ะ เดี๋ยวต่อไป จะพาไปเจาะลึกต้นตอของสาเหตุต่าง ๆ นะคะ
ไขข้อสงสัยขี้เปียก (Smegma) คืออะไร
หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “ขี้เปียก” มากันอย่างยาวนาน แต่ไม่รู้จริง ๆ ว่า เจ้าขี้เปียกตัวนี้ มันคือจุดไหน ส่วนไหนเรียกว่าขี้เปีย ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า เจ้าขี้เปียกตัวนี้เนี่ย เกิดจากการสะสมของคราบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น คราบปัสสาวะ คราบสารหล่อลื่นธรรมชาติที่ช่วยให้กิจกรรมเข้าจังหวะชุ่มชื่น และราบรื่นนั่นเอง ซึ่งหากมีเจ้าคราบเหล่านี้สะสมบริเวณคออวัยวะเพศก็จะเป็นแหล่งรวมเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย โอกาสการอักเสบติดเชื้อก็มีมากไปด้วย อ้อที่สำคัญ ตรงนี้แหละคือจุดกำเนิดของกลิ่นไม่พึงประสงค์บริเวณน้องชายค่ะ ยิ่งหากมีการสะสมในปริมาณที่มากๆ จะพบว่าบริเวณดังกล่าวมีแผ่นขาว ๆ เคลือบอยู่ พอใช้นิ้วลูบก็จะหลุดออกมาเป็นขุยนั่นเองค่ะ
ดังนั้นหากหนุ่ม ๆ ไม่อยากมีขี้เปียก แนะนำว่าหลังจากที่สำเร็จภาระกิจพิชิตดวงดาว หรือหลังจากปัสสาวะแล้วควรล้างให้สะอาดทุกครั้งน๊า
ทำความรู้จักการอักเสบที่ปลายอวัยวะเพศชาย (Balanitis)
สืบเนื่องมาจาก “ขี้เปียก” ข้างต้น ตามที่กล่าวเอาไว้ว่า หากหนุ่ม ๆ มีขี้เปียก โอกาสที่เจ้าโลกจะติดเชื้อก็มีมากไม่แพ้กันเลย เนื่องจากความสกปรกที่หมักหมมมายาวนาน จนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย จึงไม่แปลกเลยที่เจ้าโลกจะเกิดการติดเชื้อ นอกจากนี้การติดเชื้อที่จุดเล็ก ๆ จุดนี้นี่แหละค่ะ ที่จะนำพาไปสู่ปัญหาการระคายเคืองผิวหนัง อักเสบบวมแดงอีกด้วยค่ะ
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า การสวมใส่ถุงยางขณะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคู่รักนั้นนอกจากจะช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมนพันธ์ได้อีกด้วย ซึ่งเจ้าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นี้แหละ ที่ทำให้น้องชายมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ว่านั้นได้แก่
- หนองใน เกิดจากการอักเสบบริเวณปลายน้องชาย สังเกตุได้จากการที่บริเวณส่วนปลายอวัยวะเพศจะมีสีขาว สีเหลือง หรือสีเขียว แถมรู้สึกแสบร้อน เจ็บปวดเมื่อปัสสาวะ
- หนองในเทียม เมื่อปัสสาวะจะพบว่ามีน้ำสีขาวขุ่นไหลออกมา มีอาการเจ็บปวดขณะปัสสาวะ นอกจากนี้ยังมีอาการเจ็บบริิเวณอัณฑะร่วมด้วยนั่นเองค่ะ
หากทราบอย่างนี้แล้ว อย่าลืมรักษาความสะอาด สวมถุงยางขณะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคู่รัก เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ดกันด้วยนะคะ
การติดเชื้อรารู้เร็ว รักษาง่าย
อีกหนึ่งสาเหตุของการติดเชื้อบริเวณอวัยวะเพศ ก็คือการติดเชื้อรานั่นเองค่ะ นี่ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ของเจ้าโลก สาเหตุก็เกิดจากการที่หนุ่ม ๆ รักษาความสะอาดได้ไม่ดีเท่าที่ควรเช่นกันค่ะ โดยจะมีอาการคัน ระคายเคืองบริเวณปลายอวัยวะเพศ, ปวดแสบปวดร้อน, มีคราบเมือกขาว ๆ ลักษณะเป็นก้อน และผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศมีความันวาวผิดปกติ นั่นเองค่ะ
“กระเพาะปัสสาวะอักเสบ” หนึ่งสัญญาณเตือนโรคร้าย
ปัญหากระเพาะปัสสาวะอักเสบมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียเช่นกันค่ะ แต่เป็นการติดเชื้อบริเวณกระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ หรือ ไต นั่นเองค่ะ จะสังเกตุได้จากเวลาปัสสาวะจะมีอาการปวด และแสบร้อนนั่นเอง หากใครที่มีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบแนะนำว่าให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาจะดีที่สุดค่ะ
อวัยวะเพศชายมีกลิ่น ดูแลอย่างไร
การรักษาความสะอาดร่างกายรวมไปถึงจุดซ่อนเร้นอย่างอวัยวะเพศนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากเลยค่ะ เนื่องจากความสกปรกจากจุดเล็ก ๆ อย่างเช่นอวัยวะเพศอาจจะนำปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงมาสู่ตัวคนไข้เอง ทั้งนี้ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดอวัยวะเพศชายมีกลิ่น ไม่พึงประสงค์ของเจ้าโลกด้วย ดังนั้นเราควรรักษาความสะอาดจุดซ่อนเร้น ไม่ให้มีคราบ ไม่ให้สกปรก ไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา และไม่ควรปล่อยให้เกิดความอับชื้นด้วยนะคะ
เอาล่ะ เรามาจดูกันนะคะว่า การดูแลจุดซ่อนเร้นของผู้ชายให้ปราศจากกลิ่นกวนใจนั้นมีอะไรบ้างไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
- อย่างแรกเลย หลังจากเสร็จกิจกรรมเข้าจังหวะกับคู่รัก หรือคู่นอนแล้ว หนุ่ม ๆ ควรล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นทุกครั้งนะคะ เพื่อล้างคราบน้ำหล่อลื่น รวมไปถึงน้ำอสุจิที่อาจเกาะบริเวณอวัยวะเพศออกนั่นเองค่ะ
- ทุกครั้งที่ทำความสะอาดอวัยวะเพศ ต้องทำความสะอาดส่วนที่อยู่ข้างในหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชายให้สะอาดด้วยนะคะ เพราะคราบปัสสาวะ น้ำหล่อลื่น รวมไปถึงคราบอสุจิ จะสะสมอยู่บริเวณดังกล่าวค่อนข้างมากเลยค่ะ
- ควรเลือกสวมเสื้อผ้าที่สะอาด ระบายอากาศได้ดี ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองผิวนะคะ
- ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ นอกจากช่วยป้องกันการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แล้ว ยังช่วยลดโอกาสการตั้งครรภ์ของฝ่ายหญิงได้ด้วยนะคะ
- หากหนุ่ม ๆ คนไหนมีเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยู่ แนะนำว่าควรงดกิจกรรมทางเพศทุกรูปแบบนะคะ หรือหากทนไม่ไหวจริง ๆ แนะนำว่าให้สวมใส่ถุงยางทุกครั้งนะคะ